เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอขอให้ปรับหลักเกณฑ์ วิธีการ คัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุ แต่งตั้ง เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็น หรือ มีเหตุพิเศษ หรือ ว12 โดยเพิ่มคะแนนการสอบภาค ค การสัมภาษณ์ความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพ จากเดิมคะแนนเต็ม 50 คะแนน เป็น 150 คะแนนนั้น ผู้ที่จะเข้าสอบภาค ค ได้จะต้องผ่านการสอบภาค ก สอบความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับวินัย คุณธรรม จริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา และ ภาค ข สอบความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งก่อน โดยผ่านเกณฑ์ที่ร้อยละ 60 ดังนั้นการปรับเพิ่มคะแนนส่วนดังกล่าวจึงเป็นเพียงการเพิ่มตามสัดส่วนของคะแนนเต็มที่เพิ่มขึ้น "ส่วนข้อกังวลว่าการเพิ่มคะแนนภาค ค จะเปิดช่องให้มีการเล่นพรรคเล่นพวกในขั้นตอนการสัมภาษณ์ หากมองในแง่ร้ายก็เป็นไปได้ทุกที่ แต่เราคงกำหนดน้ำหนักของแต่ละองค์ประกอบไว้ ไม่ใช่ปล่อยอิสระตามใจกรรมการ นอกจากนี้ยังขอดูคะแนนได้ด้วย ส่วนข้อเสนอของ สพฐ.ที่ให้เขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ออกข้อสอบและตรวจข้อสอบเองทั้งหมดนั้น ผมเห็นว่าถ้าไม่กระจายอำนาจไปให้ สพท.ก็จะมีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา ฉะนั้นจึงไม่อยากให้เป็นการรวบอำนาจโดย สพฐ.หรือโดยคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) " เลขาธิการ กพฐ. กล่าว นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวยังเป็นเพียงข้อเสนอซึ่ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ ที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้นอกจากจะนำเสนอปรับปรุงหลักเกณฑ์ และวิธีการคัดเลือกครูผู้ช่วยกรณีทั่วไป ครูผู้ช่วย ว12 แล้ว จะมีการเสนอพิจารณาเกณฑ์คัดสอบคัดเลือกศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษา รองผู้บริหารสถานศึกษาด้วย โดยจะใช้หลักการเดียวกับการสอบครูผู้ช่วย ที่ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ดำเนินการเองทั้งหมด อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ก.ค.ศ.ว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอของสพฐ.หรือไม่ และ สพฐ.เป็นเพียงผู้ที่มีหน้าที่เสนอปรับหลักเกณฑ์เท่านั้น ด้านนางธัญญา วังคะฮาด ตัวแทนพนักงานราชการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต 5 ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ขัดข้องหากจะปรับเกณฑ์คะแนนการสอบภาค ก 100 คะแนน ภาค ข 100 คะแนน และภาค ค 150 คะแนน เพราะอย่างน้อยคนที่เป็นพนักงานราชการมานานที่มีสิทธิสอบในครั้งนี้ จะได้มีโอกาสได้รับการบรรจุเป็นครูผู้ช่วยเสียที อย่างตนทำงานมา 17 ปี สอบกี่ครั้งก็ไม่ได้ เพราะอ่านหนังสือแข่งกับเด็กรุ่นใหม่ๆ ไม่ได้ ฉะนั้นการลดคะแนนภาค ก และ ข แล้วเพิ่มคะแนนภาค ค เป็น 150 คะแนนจะช่วยได้มาก ทั้งนี้ขอเสนอให้ควรมีการกำหนดคะแนนพิเศษให้กับคนที่ทำงานมานานด้วย โดยแบ่งตามช่วงอายุการทำงาน นอกจากนี้การประเมินผลงาน แฟ้มประวัติต่างๆ ควรไปประเมินในพื้นที่จริงด้วย เพราะบางคนทำงานเก่งแต่เขียนผลงานที่จะนำมาเสนอช่วงสัมภาษณ์ไม่เก่ง ส่วนพนักงานราชการคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่เป็นห่วงในการสอบภาค ค ที่มีคะแนนค่อนข้างสูง คือการให้คะแนนของกรรมการสอบสัมภาษณ์ว่ามีความเที่ยงธรรมมากแค่ไหน และหากเกิดการให้คะแนนช่วยเหลือพนักงานคนใดคนหนึ่ง ใครจะตรวจสอบได้เพราะการให้คะแนนสอบสัมภาษณ์เป็นดุลพินิจของกรรมการแต่ละคน ดังนั้นจึงอยากฝากให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาในประเด็นข้อห่วงใยนี้ด้วย ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 03 ธันวาคม พ.ศ. 2556 |